Trust Economy คือคำที่เรามักได้ยินกันมากขึ้นในช่วงสถานการณ์เปลี่ยนโลกที่เรียกว่า COVID-19 แปลตรง ๆ คือเศรษฐกิจที่อยู่บนรากฐานความไว้วางใจ ซึ่งก็คือการที่ผู้บริโภคจะมุ่งเน้นสนับสนุนหรือใช้จ่ายกับธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ตัวผู้บริโภคเองมีความเชื่อมั่นในแหล่งที่มาหรือขั้นตอนกระบวนการผลิตของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ

และนี่ก็คือสิ่งที่ noBitter เองมุ่งเน้นมาโดยตลอดตั้งแต่เริ่มประกอบธุรกิจ ด้วยปณิธานที่อยากให้คนเมืองได้ทานผักที่ ไว้ใจได้ ว่าสด สะอาด ปลอดภัย ไร้สารพิษ และลดการปนเปื้อนจากการขนส่งลง ลูกค้าสามารถ pre-order สั่งจองผักเคลแล้วนัดรับที่หน้าฟาร์มของเราได้ด้วยตนเอง รวมทั้งยังสามารถเข้าเยี่ยมฟาร์ม ได้เห็นถึงกระบวนการปลูกและการเก็บเกี่ยวจากฟาร์มจนถึงมือ (From Farm to Fork) ได้โดยไม่ต้องเดินทางข้ามจังหวัดไกล ๆ ด้วย concept ฟาร์มผักกลางเมือง

อย่างที่หลายคนอาจจะทราบว่าที่ noBitter เราควบคุมสภาวะแวดล้อมในทุก ๆ องค์ประกอบของการปลูกผักเคลแต่ละต้น เพื่อให้ผักของเราเติบโตอย่างสมบูรณ์ วันนี้เรามีเคล็ดลับการดูแลเอาใจใส่ในแต่ละขั้นตอนมากระซิบดัง ๆ ให้ทุกคนได้ทราบกันเพิ่มเติมครับ

เริ่มต้นกันที่น้ำ อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าต้นไม้ทุกชนิดบนโลกนี้ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ซึ่งจะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับชนิดแต่ละสายพันธุ์ ในส่วนของฟาร์มที่ noBitter เราใช้น้ำประปาที่ผ่านเครื่องกรอง RO (Reverse Osmosis) เป็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์ปราศจากแร่ธาตุ ในการดูแลผักเคลของเราทุกต้น และหมั่นเช็คค่า EC (Electric Conductivity) และความเป็นกรดด่าง (pH) ทุกๆ วัน รวมทั้ง 2 วันก่อนเก็บเกี่ยวเราจะทำการหมุนเวียนถ่ายเทน้ำ RO ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้มั่นใจว่าผักเคลของเราไม่มีสารตกค้างก่อนถึงมือผู้บริโภค

แสง อย่างที่เราเรียนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่าพืชสังเคราะห์แสง เพราะเป็นกระบวนสร้างอาหารของพืช noBitter เราปลูกผักเคลของเราในระบบปิด (Indoor Vertical Farm) ก็จริงแต่เราก็ดูแลและควบคุมในเรื่องนี้เช่นกัน โดย LED ที่เราใช้เลียนแสงธรรมชาตินั้นเป็นวิธีการเดียวกับที่ NASA เลือกปลูกผักในอวกาศ มากว่า 30 ปี โดยความเข้มความแสง (PPFD) ต้องอยู่ในระดับที่ไม่มากเกิดไปจนทำให้ใบของผักเคลหนาและแข็ง หรือน้อยจนเกินไปจนทำให้ผักเคลโตช้ากว่ากำหนด

อากาศ เองก็มีผลต่อการเติบโตของผักเคลเช่นกัน อย่างที่เราทราบกันว่าผักเคลเป็นพืชเมืองหนาว โดยผักเคลของเราปลูกอยู่ในอุณหภูมิระหว่าง 20-25 องศาเซลเซียส เรียกได้ว่าทั้งกรองทั้งติดแอร์ ดูแลอย่างดีตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากการควบคุมสิ่งแวดล้อมที่มีผลกับผักเคลแล้ว noBitter เรายังดูแลเอาใจใส่กับพนักงานทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแลผักเคล ตั้งแต่เมื่อสมัครงานเข้ามาก็ให้ไปตรวจสุขภาพว่าไม่เป็นโรคเรื้อรังร้ายแรงหรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจใด ๆ จากนั้นในแต่ละวันในช่วง COVID-19 ก็ต้องได้รับการตรวจวัดไข้ก่อนเข้าฟาร์มทุกวัน รวมทั้งต้องล้างมือทุกครั้ง เปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าภายในฟาร์ม และตลอดระยะเวลาการทำงานต้องใส่ผ้าคาดปาก (Mask) ถุงมือ หมวกคลุมผม รวมถึงผ้ากันเปื้อนเพื่อรักษาสุขอนามัยในทุกขั้นตอน

สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดผักก็มีการล้างทำความสะอาดทุกครั้งที่ใช้ แน่นอนรวมไปถึงถ้วยปลูกก็ล้างหลังจากถอนต้นออกจากราง รางเมื่อจบรอบการปลูกก็ต้องล้าง อะไรล้างทำความสะอาดได้เราล้างหมด

ส่วนบรรจุภัณฑ์เราก็เลือกสรรมาอย่างดี ไปค้นมาทั่วประเทศจนเจอถุงใส่ผักเราที่เรียกว่า ActivePak เป็นวัสดุที่ได้จากงานวิจัยจากทางสวทช. เพื่อใช้ในการยืดอายุผักโดยอาศัยหลักการปรับสภาวะบรรยากาศในภาชนะบรรจุ หรือสภาวะรอบผลิตผลให้เป็นสภาวะสมดุล (EMA) เพื่อชะลอการหายใจและควบคุมองค์ประกอบของบรรยากาศ (O2, CO2 และความชื้น) สนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nstda.or.th/th/nstda-r-and-d/559-active-paktm

ดังนั้นเราจึงกล้าพูดได้เลยว่าที่ noBitter ห่วงใย ใส่ใจในทุกขั้นตอนจริง ๆ ทำให้ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่าผักเคลที่ได้รับนั้น สะอาด ปลอดภัย ปลูกและดูแลด้วยใจ เหมือนทำเพื่อคนในครอบครัว