The lost year
เมื่อวานนี้ผมขับรถไปตรวจเยี่ยมทั้ง 3 ฟาร์มของ noBitter มาครับ เริ่มจากสาขา มหิดล ศาลายา ไป สาธุประดิษฐ์ แล้วก็จบที่ ศรีนครินทร์ ระหว่างขับรถก็นึกถึงเรื่องราวเก่าๆ เราผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมาย จากสาขาแรกที่สยามสแควร์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว จากการปลูกพืชใน mini plant factory ที่ต้องการ proof of concept ว่า การทำเกษตรในอาคารสามารถทำเชิงพาณิชย์ได้จริงต้องบอกว่าพอปลูกได้ ขายได้ เริ่มเป็นข่าว มีสื่อมาสัมภาษณ์เยอะ ก็กลายเป็นมี demand มากกว่า supply ที่ผลิตได้ แต่อย่างไรก็ตามตอนนั้นผลผลิตไม่ได้เยอะครับแค่วันละไม่กี่กิโล
แล้วพอมาขยายสาขาต่อ กำลังการผลิตเราเพิ่มขึ้นเกิน 10 เท่า เราก็มีช่วงที่ทั้งขายดีและขายไม่ดี ซึ่งต้องยอมรับว่า COVID เข้ามากระทบเป็นช่วงๆ มีทั้งบวกและลบ เราพยายามดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดมาตลอดปีกว่าๆ ตั้งแต่ lock down ครั้งแรก การขาย B2C ไม่ใช่เรื่องง่าย พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อะไรที่เคยทำแล้ว work มาวันนี้ก็ไม่ work แต่ข่าวดีคือ “เรายังอยู่” ครับ
COVID เป็นตัวเร่งปฏิกริยาหลายๆ อย่าง ทำให้พวกเราต้องอยู่บ้าน ไปไหนไม่ได้ ทำให้การซื้อขายออนไลน์เป็นเรื่องปกติ เปลี่ยนลูกค้าคนที่อยู่บ้านเฉยๆ ให้กลายเป็นพ่อค้าแม่ค้า มีโอกาสมากมายภายใต้วิกฤต แต่บรรยากาศมันก็อึมครึม คนก็ไม่ค่อยอยากจะใช้เงิน ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ร้านค้าออนไลน์ก็แข่งกันลดแลกแจกแถม ค่าโฆษณาก็แพงขึ้นทุกวันๆ การตลาดในยุคนี้ไม่หมูเลยจริงๆ
มีคุณลูกค้า block line เรา มีคนที่บอกว่าของเราแพงแล้วก็ไม่ได้ซื้อ มีคุณลูกค้าที่รอซื้อแต่ช่วงโปรโมชั่น ผมต้องขอโทษที่ยังไม่สามารถทำให้ผักเราถูกได้เพราะยังไม่ได้ economy of scale ต้นทุนหลายอย่างเรายังสูงอยู่ เรามีอุปสรรคจากค่าจัดส่งที่เราเคย subsidize แต่พอนานไปเราก็แบกต้นทุนส่วนนี้ต่อไม่ไหว ผมอยากให้ noBitter เป็นฟาร์มใกล้บ้านที่ทุกคนสามารถแวะมาซื้อผักได้ง่ายๆ ครับ
อย่างไรก็ตามวันนี้เรายังเป็นฟาร์มผักที่ให้ความสำคัญกับเรื่องผักปลอดภัย ความสะอาด สุขอนามัย และคุณค่าทางอาหารของผักที่เราปลูก เราอยากให้ลูกค้าเราได้กินผักดีๆ ที่เค้าหาได้ยากในตลาดปัจจุบัน เราอยากให้ทั้งเด็ก คนแก่ คนป่วย ทุกคนในครอบครัว กินผัก noBitter ด้วยรอยยิ้ม ด้วยความมั่นใจ และไว้วางใจ
ผมต้องขอบคุณคุณลูกค้าทุกท่านที่ยังเชื่อใจเรา ยังอุดหนุนผลิตภัณฑ์จาก noBitter อยู่เราขอโอกาสให้ได้ทำงานที่เรารัก อยากฝากทุกคนถ้าชอบผักหรือสินค้าแปรรูปต่างๆ ของเราช่วยบอกต่อด้วยครับ ช่วยให้เพื่อนๆ หรือคนที่คุณรักได้รู้จัก noBitter
ผมหวังว่าปีหน้า 2022 จะเป็นปีที่ดีสำหรับทุกคน เรากำลังจะกลับมาใช้ชีวิตในแบบ new normal ที่รักษาระยะห่าง ใส่แมส กินร้อน ช้อนกู แต่ก็จะได้เจอเพื่อนๆ ได้เจอผู้คนกันแบบตัวเป็นๆ กันอีกครั้ง
ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง มีชีวิตที่ไม่ขมครับ
วิลาส ฉ่ำเลิศวัฒน์ (Dr.Dink)
noBitter CEO