รู้หรือเปล่า? ผักเคลไม่ได้มีแค่ สายพันธุ์ เดียวในโลกนะ !
![](https://nobitter.life/wp-content/uploads/2019/09/kale-type-2-1024x536-1.jpg)
ผักเคลที่เรานิยมกินกันอยู่นั้นและพบเห็นมากที่สุดนั้นก็คือ คะน้าใบหยิก หรือ เคลใบหงิก เคลใบหงิกนี้ไม่ได้มีแค่ สายพันธุ์ เดียว ! เคลเองก็มีลูกพี่ลูกน้องเหมือนกันนะเอ๋อ..! ไปทำความรู้จักกับลูกพี่ลูกน้อง Kale กันดีกว่ามีรูปร่างลักษณะอย่างไร มาจากทวีปไหนกันบ้าง
1.Vate Blue Curled Kale
![สายพันธุ์ ผักเคล 1](https://nobitter.life/wp-content/uploads/2020/04/shutterstock_525356428.jpg)
ลักษณะขอบใบจะหยิกฝอย มีความแตกต่างจากคะน้าทั่วไป นิยมนำมาทำอาหารประเภทผัด หรือต้ม ให้คุณค่าวิตามิน B2 และแร่ธาตุหลายชนิด เป็นเคล ที่ปลูกง่าย โตไว และมีรสชาติดีระดับความขมอยู่ระดับกลางไม่ขมไม่หวาน เป็นพืชที่ต้องการแสงแดดจัด มีผลผลิตตลอดทั้งปี เป็นสายพันธุ์ของญี่ปุ่น
2. Lacinato kale
![สายพันธุ์ ผักเคล 2](https://nobitter.life/wp-content/uploads/2020/04/shutterstock_352901402.jpg)
เป็นเคลทีทมีลักษณะใบเป็นเนื้อนูน มีความยาวของลำต้น สูง 2-3 ฟุต มีรสชาติหวานร้อยมีความละเอียดอ่อนมากกว่าเคลในตระกูลใบหยิก เป็นสายพันธุ์มาจากประเทศอิตาลี
3. Red Russian Kale
![สายพันธุ์ ผักเคล 3](https://nobitter.life/wp-content/uploads/2020/04/shutterstock_327166658.jpg)
เป็นเคลแดงรัสเซีย เป็นพืชที่ลักษณะใบหยิก จะเห็นได้ว่ามีใบหยิกเหมือนกับ Vate Blue Curled Kale แต่มีความแตกต่างตรงสีที่ Red Russian Kale นั้นมีลักษณะใบหยิกเป็นสีแดงอมม่วงปนเขียว เป็นผักเคลที่ปลูกง่ายและโตไวเช่นกัน มีรสชาติหวานกรอบ เป็นพืชที่ชอบแสงแดดจัด เป็นพืชนำเข้ามาจากอเมริกา
4. Redbor Kale
![สายพันธุ์ ผักเคล 4](https://nobitter.life/wp-content/uploads/2020/04/shutterstock_1234739779.jpg)
คะน้าสีแดงอมม่วง! พืชภูมิประเทศที่แข็งแรงและเป็นพืชที่สามารถอยู่กับสภาพอากาศเย็นมีรูปร่างและสีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีรสชาติอร่อย ผักคะน้าที่โค้งมนนุ่มนวลกรอบนี้เพิ่มสีสันให้สลัด Redbor เติบโตสูง 18-24 นิ้ว
ผักเคล “ราชินีของผักใบเขียว” แต่ละสายพันธุ์ก็ให้คุณประโยชน์ไม่แพ้กันเลย ทานแค่ผักเคลแค่หนึ่งเดียวก็ได้คุณประโยชน์เป็นนับสิบอย่าง ทราบอย่างนี้แล้วอย่าลืมไปหามารับประทานเพื่อสุขภาพกันของท่านได้แล้ว
![](https://nobitter.life/wp-content/uploads/2021/07/cover-noBitter-kale2.png)